ประวัติศาสตร์การก่อเกิดราชอาณาจักรไทย “แผ่นดินของ พ่อกู” จากข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์เชื่อว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยอยู่ถาวรในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันมาแล้วประมาณ 40,000 ปี เดิมชาวมอญ เขมรและมลายูปกครองพื้นที่ดังกล่าว โดยมีอาณาจักรใหญ่ เช่น ฟูนาน ทวารวดี ละโว้ หริภุญชัย จักรวรรดิเขมร และตามพรลิงค์ ส่วนบรรพบุรุษไทยสยามปัจจุบันซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มชาวไท-ไตเป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่ในแถบเดียนเบียนฟูในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๕ ถึง ๘ และเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๑ รัฐของชาวไทเกิดขึ้นจำนวนมากในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ ประมาณปี ๑๗๘๐ พ่อขุนบางกลางหาวรวบรวมกำลังก่อกบฏต่อเขมร และตั้งอาณาจักรสุโขทัย เหนือขึ้นไป เจ้าพญามังรายทรงตั้งอาณาจักรลานนาในปี ๑๘๓๙ มีศูนย์กลางอยู่ที่เชียงใหม่ ทรงรวบรวมแว่นแคว้นขึ้นในแถบลุ่มแม่น้ำปิง ส่วนบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างมีการตั้งสหพันธรัฐในบริเวณเพชรบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรีและอยุธยาในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๑ อาณาจักรอยุธยาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๑๘๙๓ ต่อมาเป็นใหญ่แทนจักรวรรดิเขมร และแทรกแซงอาณาจักรสุโขทัยอย่างต่อเนื่องจนสุดท้ายถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงจัดการปกครองโดยแบ่งพลเรือนกับทหารและจตุสดมภ์ซึ่งบางส่วนใช้สืบมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงริเริ่มระบบเจ้าขุนมูลนาย ทำให้ประชากรส่วนใหญ่เป็นไพร่ใช้แรงงานปีละ ๖ เดือน กรุงศรีอยุธยาเริ่มติดต่อกับชาติตะวันตกเมื่อ พ.ศ. ๒๐๕๔ หลังจากนั้นในปี ๒๑๑๒ กรุงศรีอยุธยาตกเป็นประเทศราชของราชวงศ์ตองอูแห่งพม่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพในอีก ๑๕ ปีให้หลัง กรุงศรีอยุธยายังติดต่อกับชาติตะวันตก จนรุ่งเรืองถึงขีดสุดในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ความขัดแย้งภายในติด ๆ กันหลายรัชกาลในราชวงศ์บ้านพลูหลวง และการสงครามกับราชวงศ์คองบอง (อลองพญา) จนส่งผลให้เสียกรุงครั้งที่สองเมื่อปี ๒๓๑๐ หลังจากนั้นบ้านเมืองแตกออกเป็นชุมนุมต่าง ๆ เจ้าตากทรงรวบรวมแผ่นดินและขยายอาณาเขต หลังเกิดความขัดแย้งช่วงปลายรัชกาล พระองค์และพระราชโอรสทั้งหลายทรงถูกสำเร็จโทษโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นในปี ๒๓๒๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนาอำนาจปกครองเหนือประเทศลาวและกัมพูชาปัจจุบันและยุติสงครามกับพม่า ต่อมากรุงรัตนโกสินทร์ถูกครอบงำด้วยปัญหาความพยายามแผ่อิทธิพลของชาติตะวันตกโดยมีการบรรลุสนธิสัญญาต่าง ๆ เช่น สนธิสัญญาเบอร์นี สนธิสัญญาเบาว์ริง ตามด้วยสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมอีกหลายฉบับ เป็นการเริ่มต้นการทำให้ประเทศทันสมัยและกลายเป็นตะวันตก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มการรวมศูนย์อำนาจแทนให้เจ้าท้องถิ่นปกครองแบบเดิม เลิกทาสและไพร่ และจัดระเบียบการปกครองแบบกระทรวง มีการยอมแลกดินแดนหลายครั้งเพื่อแลกกับการแก้ไขสนธิสัญญาต่าง ๆ ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ประเทศสยามถือฝ่ายสัมพันธมิตร ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่เป็นผล มีส่วนให้เกิดการปฏิวัติในปี ๒๔๗๕ อันนำมาซึ่งการปกครองระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและทำให้คณะราษฎรมีบทบาททางการเมือง ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยถูกญี่ปุ่นบุกครองและลงนามเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่น หลังสงครามยุติในปี 2488 ประเทศไทยสามารถบอกเลิกสถานะสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำให้ไม่ตกอยู่ในสภาพผู้แพ้สงคราม ระหว่างสงครามเย็น ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสหรัฐเต็มตัว การก่อตั้งประเทศสยาม ติดต่อ ต่อเนื่องมายาวนาน มีผู้นำหลากหลายมีการขัดแย้งกันบ้าง แย่งอำนาจกันบ้างซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่ว่าผู้นำคนไหนก็นำ ทหารและประชาชนต่อสู้อย่างต่อเนื่องกับอริราชศัตรู เพื่อปกป้องประชาชนและประเทศมาอย่างยาวนาน ทั้งผู้นำทหารและประชาชนที่เข้ารบกับศัตรูเสีย ชีวิตล้มตายกันเป็นจำนวนมากหลั่งเลือดและชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินนี้ให้ลูกหลานได้มีแผ่นดินอยู่ บูรณกษัตริย์เหล่านั้น นับแต่ เจ้าแม่จามเทวี พญากือนา พ่อขุนเม็งราย พ่อขุนผาเมือง ไล่เรียง จนถึงยุคพระนารายณ์มหาราช พระนเรศวรมหาราช พระสุพรรณกัลยา พระเอกาทศรถ พระเจ้าตาก มาถึงราชวงค์จักรี แล้วยังมีชาวบ้านและเจ้าเมืองต่าง ๆ ที่พลีชีพเพื่อแผ่นดินนี้ เช่นพระมหาเทวีศรีสุริโยทัย ชาวบ้านบางระจัน ต่างยอมตายเพื่อแผ่นดินนี้ เพราะฉะนั้นแผ่นดินนี้เป็นของกู มายาวนานมาตั้งแต่ยุคเชียงแสน อาณาจักรละโว้ อาณาจักรหริภุญชัย อาณาจักรลานนา อยุธยา สุโขทัย กรุงธนบุรี กรุงเทพมหานครฯ พวกกูคนไทยดั่งเดิมจึงเป็นเจ้าของแผ่นดินและเรียกผู้นำ ว่ากษัตริย์ ซึ่งเป็นคำเรียกนักรบในภาษาสันสกฤต ส่วนพวกที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นหลายชาติ หลายเผ่า ได้อยู่เป็นเป็นสุข ก็เพราะพวกกูได้ปกป้องแผ่นดินนี้ และแผ่นดินนี้เป็นของพ่อกู คือ “ในหลวง” พวกมึงอพยพมาอาศัยในแผ่นดินกูไม่รู้จักข้าวแดงแกงร้อน ทำมาค้าขายร่ำรวย พวกมึงถึงไม่มีความเข้าใจถึงความรักความศรัทธราที่พวกกูคนไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกมึงจะมาแตะต้อง “พ่อกู” ต้องข้ามศพพวกกูไปเสียก่อน “ทรงพระเจริญ” ปัญหาที่พวกมึงอ้างมาทั้งหมดไม่ได้เกิดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือ “ในหลวงของกู” ทรงปกเกล้า ไม่ปกครอง มันเกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมา ที่พวกคณะราษฎร์ เข้าปกครองประเทศ พวกมึง ทั้งพวกที่เรียกตัวเองว่าเจ้าขุนมูลนาย นายทุน นักการเมือง ขุนศึกที่เข้ามาบริหารแผ่นดินโดยอ้างสิทธิว่ามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฉ้อโกงบ้านเมือง คอร์รัปชั่น ใช้อำนาจอิทธิพล กลายเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชน เป็นชนชั้นปกครอง ครอบครอบสมบัติ ทรัพย์สินและความมั่งคั่งส่วนใหญ่ของประเทศ ความวินาศ ฉิบหายของประเทศก็มาจากพวกที่พวกมึงบริหาร กูยังไม่เห็นตรงใหนที่ “พ่อกู” เข้าไปเกี่ยวข้อง มันมาจากพวกมึงทั้งนั้น และพวกูขอประณามนายจตุรนต์ ฉายแสง ที่ยกเลิกการเรียนประวัติศาสตร์ ท